วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 4

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 4
วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม 2559
เวลาเรียน 14.30-17.30 น.

เนื้อหาที่เรียน


เรียนเรื่อง การสื่อสารกับผู้ปกครองเด็กปฐมวัย 
   ก่อนเข้าสู่เนื้อหาสาระการเรียนรู้อาจารย์ให้นักศึกษาเล่นเกม เกี่ยวกับการสื่อสาร














ความหมายของการสื่อสาร
   การสื่อสาร  (Communication) คือ กระบวน การส่งข่าวสาร ข้อมูล จากผู้ส่งข่าวสารไปยังผู้รับข่าวสาร มีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสารมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา โดยคาดหวังให้เป็นไปตามที่ผู้ส่งต้องการ
   การติดต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ความคิด ทัศนคติ ทักษะ และประสบการณ์ระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารให้มีความเข้าใจ ที่ตรงกันเพื่อนำไปสู่การดำรงชีวิตที่มีความสุข

ความสำคัญของการสื่อสาร
  1.ทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม
  2.ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
  3.ทำให้สร้างมิตรภาพที่อบอุ่น
  4.ทำให้เกิดภาพแห่งความพึงพอใจ
  5.ช่วยในการพัฒนาอัตมโนทัศน์ เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อตนเองก่อให้เกิดความพอใจในชีวิต

รูปแบบของการสื่อสาร
 -รูปแบบการสื่อสารของอริสโตเติล (Aristotle’s Model of Communication)
 -รูปแบบการสื่อสารของลาล์สเวล (Lasswell’s Model of Communication)
 -รูปแบบการสื่อสารของแชนนอนและวีเวอร์ (Shannon & Weaver’s Model of Communication)
 -รูปแบบการสื่อสารของออสกูดและชแรมม์ (C.E Osgood and Willbur Schramm’s )
 -รูปแบบการสื่อสารของเบอร์โล (Berlo’s Model of Communication)

                                                   รูปแบบการสื่อสารแบบต่างๆ












องค์ประกอบของการสื่อสาร

1. ผู้ส่งข่าวสาร (Sender)
     2. ข้อมูลข่าวสาร (Message)
        3. 
สื่อในช่องทางการสื่อสาร (Media)
    4. ผู้รับข่าวสาร (Receivers)
   5. 
ความเข้าใจและการตอบสนอง

ขั้นตอนการสื่อสาร

         ผู้ส่งสารและผู้รับสาร
          -ผู้จัดกับผู้ชม
          -ผู้พูดกับผู้ฟัง
          -ผู้ถามกับผู้ตอบ
          -คนแสดงกับคนดู
          -นักเขียนกับนักอ่าน
          -ผู้อ่านข่าวกับคนฟังข่าว
          -คนเล่านิทานกับคนฟังนิทาน

         สื่อ
           ใช้วิธีพูด-เขียน หรือการนำเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่น ใช้รูปภาพ รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ โดยวิธีการติดต่อนั้นต้องใช้ตัวกลางต่างๆ เช่น คลื่นเสียง ตัวหนังสือ แผ่นกระดาษที่มีตัวหนังสือเขียน คลื่นวิทยุโทรทัศน์                                                    
           ตัวกลางเหล่านี้เรียกว่า สื่อ โดยการสื่อสารนั้นสามารถใช้สื่อหลายๆอย่างได้พร้อมๆกัน เช่น การเรียน การสอน ต้องใช้ทั้งหนังสือ กระดาน ภาพ

        สาร
           เรื่องราวที่รับรู้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น  ข้อเท็จจริง  ข้อแนะนำ  การล้อเลียน  ความปรารถนาดี  ความห่วงใย  มนุษย์จะแสดงออกมาให้เป็นที่รับรู้ได้ การสื่อสารจะเกิดขึ้นตามกาลเทศะ  และสภาพแวดล้อมต่างๆในสังคม
    
       วัตถุประสงค์ของการสื่อสาร
         1. เพื่อแจ้งให้ทราบ
         2. เพื่อสอนหรือให้การศึกษา 

 3. เพื่อสร้างความพอใจหรือให้ความบันเทิง
 4. เพื่อเสนอหรือชักจูงใจ 

ประเภทของการสื่อสาร
   การจำแนกประเภทของการสื่อสาร โดยอาศัยเกณฑ์ในการจำแนกที่สำคัญ 3 ประการ คือ
1. จำแนกตามกระบวนการหรือการไหลของข่าวสาร
2. จำแนกตามภาษาสัญลักษณ์ที่แสดงออก
3. จำแนกตามจำนวนผู้สื่อสาร
   1. จำแนกตามกระบวนการหรือการไหลของข่าวสาร แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
       1.1 การสื่อสารทางเดียว (One-Way Communication) คือการสื่อสารที่ข่าวสารจะถูกส่งจากผู้ส่งไปยังผู้รับในทิศทางเดียว
       1.2 การสื่อสารสองทาง (Two-way Communication) คือการสื่อสารที่มีการส่งข่าวสารตอบกลับไปมาระหว่างผู้สื่อสาร
   2. จำแนกตามภาษาสัญลักษณ์ที่แสดงออก
       2.1 การสื่อสารเชิงวัจนะ (Verbal Communication) หมายถึงการสื่อสารด้วยการใช้ภาษาพูด หรือเขียนเป็นคำพูด ในการสื่อสาร
       2.2 การสื่อสารเชิงอวัจนะ (Non-Verbal Communication) หมายถึงการสื่อสารโดยใช้รหัสสัญญาณอย่างอื่น เช่น ภาษาท่าทาง การแสดงออกทางใบหน้า สายตา ตลอดจนถึงน้ำเสียง ระดับเสียง ความเร็วในการพูด เป็นต้น
    3. จำแนกตามจำนวนผู้สื่อสาร
       3.1 การสื่อสารส่วนบุคคล (Intrapersonal Communication)
       3.2 การสื่อสารระหว่างบุคคล (Interpersonal Communication)
       3.3 การสื่อสารมวลชน (Mass Communication)

 การสื่อสารกับตนเอง
   •การสื่อสารที่บุคคลเดียวเป็นทั้งผู้ส่งสารและรับสาร
   •การคิดหาเหตุผลโต้แย้งกับตนเองในใจ
   •เนื้อหาไม่มีขอบเขตุจำกัด
   •บางครั้งมีเสียงพึมพำดังออกมาบ้าง
   •บางครั้งเกิดความขัดแย้งในใจและไม่อาจตัดสินใจได้
   •อาจเป็นการปลอบใจตนเอง การเตือนตนเอง การวางแผน หรือแก้ปัญหาใดๆ

การสื่อสารระหว่างบุคคล
  -บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ไม่ถึงกับเป็นกลุ่ม
  -เป็นเรื่องเฉพาะระหว่างบุคคล อาจไม่เกี่ยวข้องหรือเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
  -อาจเป็นความลับระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสารเท่านั้น
  -สารที่สื่ออาจเปิดเผยหากมีประโยชน์ต่อบุคคลอื่น

การสื่อสารสาธารณะ
  -มีเป้าหมายจะส่งสารสู่สาธารณชน
  -มีเนื้อหาที่อาจให้ความรู้และเป็นประโยชน์ ให้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
  -เป็นความคิดที่มีคุณค่าและเปิดเผยได้โดยไม่จำกัดเวลา
  -เช่น การบรรยาย การปาฐกถา  การอมรม การสอนในชั้นเรียน

การสื่อสารมวลชน
  -ลักษณะสำคัญคล้ายการสื่อสารสาธารณะ
  -ต้องอาศัยสื่อที่มีอำนาจการกระจายสูง รวดเร็ว กว้างขวาง เช่น วิทยุ โทรทัศน์ ดาวเทียมและสื่อมวลชน
  -ต้องคัดเลือกเฉพาะข้อเท็จจริงหรือข้อคิดเห็นที่เห็นว่าควรนำเสนอ
  -อาจสนองความต้องการและความจำเป็นของมวลชนมากหรือน้อยได้

การสื่อสารในครอบครัว
  -เป็นการสื่อสารขั้นพื้นฐานของมนุษย์
  -ประสิทธิภาพของการสื่อสารขึ้นอยู่กับความตั้งใจดีของสมาชิกในครอบครัว
  -คุณธรรมที่ดีงามในครอบครัวจะช่วยพัฒนาการสื่อสารไปในทางดีงามเสมอ
  -ต้องยอมรับและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
  -คนต่างรุ่นต่างวัยในครอบครัวต้องพยายามทำความเข้าใจให้ตรงกัน
  -ควรคำนึงถึงมารยาทที่ดีงามอยู่เสมอ

การสื่อสารในโรงเรียน
  -ส่วนใหญ่เป็นการสื่อสารกับบุคคลที่คุ้นเคย
  -เนื้อหามักเกี่ยวกับวิชาการ พื้นฐานอาชีพและหลักการดำเนินชีวิต
  -มีทั้งการสื่อสารระหว่างบุคคล การสื่อสารในกลุ่มและการสื่อสารสาธารณะ
  -อาจใช้เวลานานเพราะเรื่องราวมีปริมาณมาก
  -อาจมีโอกาสโต้แย้งถกเถียง ควรยอมรับข้อเท็จจริงและไม่ใช้อารมณ์
  -ข้อเท็จจริงและข้อสรุปบางเรื่องไม่ควรนำไปเผยแพร่
  -ควรระมัดระวังคำพูดและกิริยามารยาท
  -คุณธรรมด้านความซื่อสัตย์และการยอมรับอาวุโสเป็นเรื่องสำคัญ

การสื่อสารในวงสังคมทั่วไป
  -เริ่มด้วยการทักทายตามสภาพของสังคมนั้นๆ
  -การแสดงความยินดีหรือเสียใจ ไม่ควรมากหรือน้อยจนเกินไป
  -การติดต่อกับคนที่ไม่รู้จักมาก่อนควรพูดให้ตรงประเด็นและสุภาพพอควร
  -การคบหากับชาวต่างประเทศ ควรศึกษาประเพณีและมารยาทที่สำคัญๆของกันและกัน

ปัจจัย 7 ประการเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้ปกครอง
  1.ความพร้อม
  2.ความต้องการ
  3.อารมณ์และการปรับตัว
  4.การจูงใจ
  5.การเสริมแรง
  6.ทัศนคติและความสนใจ
  7.ความถนัด

7 c กับการสื่อสารที่ดี
    Credibility ความน่าเชื่อถือ : สามารถทำให้ผู้รับสารเกิดความเชื่อถือในสารนั้น ๆ
    Content เนื้อหาสาระ : มีสาระให้เกิดความพึงพอใจ เร่งเร้าและชี้แนะให้เกิดการตัดสินใจได้ในลักษณะอย่างไรบ้าง
   Clearly ความชัดเจน : การเลือกใช้คำหรือข้อความที่เข้าใจง่าย ๆ ข้อความไม่คลุมเครือ
   Context ความเหมาะสมกับโอกาส : การเลือกใช้ภาษาและใช้สิ่งที่ส่งสารเหมาะสม
   Channel ช่องทางการส่งสาร : การเลือกวิธีการส่งข่าวสารได้เหมาะสมและรวดเร็วที่สุด
   Continuity consistency ความต่อเนื่องและแน่นอน : การสื่อสารกระทำอย่างต่อเนื่องมีความแน่นอนถูกต้อง
   Clarity of audience ความสามารถของผู้รับสาร : การเลือกใช้วิธีการส่งสารซึ่งมั่นใจว่าผู้รับสารจะสามารถรับสารได้ง่ายและสะดวกโดยคำนึงถึงความรู้ เจตคติ อุปนิสัย ทักษะการใช้ภาษา สังคมวัฒนธรรมของผู้รับสารเป็นสำคัญ

วิธีการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครอง
   -ศึกษาและพยายามทำตนให้เข้าใจกับผู้ปกครอง
   -พยายามเรียนรู้ความต้องการของเขา และหาแนวทางตอบสนองตามความเหมาะสม
   -พูดคุย พบปะกับผู้ปกครองในโอกาสต่างๆ
   -หาโอกาสไปร่วมงานพิธีทางศาสนา เข้าร่วมกิจกรรมกับผู้ปกครอง
   -ทำตนให้กลมกลืนกับผู้ปกครอง
   -มีท่าทีเป็นมิตรอยู่เสมอ
   -เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองร่วมกิจกรรม
คำถามท้ายบท
1.จงอธิบายความหมายและความสำคัญของการสื่อสารมาโดยสังเขป
การสื่อสาร คือ กระบวนการแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารระหว่างบุคคลต่อบุคลหรือบุคคลต่อกลุ่ม  
โดยใช้สัญลักษณ์ สัญญาณ หรือพฤติกรรมที่เข้าใจกัน 
การสื่อสารมีความสำคัญ คือ การสื่อสารเป็นปัจยสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ซึ่งต้องอาศัยการ
สื่อสารระหว่างกันเพื่อให้ทราบถึงสิ่งที่ต้องการสื่อสารระหว่างกัน
2.การสื่อสารมีความสำคัญกับผู้ปกครองอย่างไร
   เพื่อให้ผู้ปกครองสื่อสารความเป็นอยู่ของเด็ก โดยเป็นการสื่อสารโดยแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างบ้าน
และทางโรงเรียน เพื่อให้ได้รับรู้ถึงพฤติกรรมของเด็ก ได้ทราบถึงพัฒนาการของเด็กว่าเป็นอย่างไร และ
ทางโรงเรียนได้ทราบความข้อมูลทางบ้าน เพื่อที่ได้สามารถนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาในการเรียนการสอน
ให้ดียิ่งขึ้น การสื่อสารจึงมีความสำคัญสำหรับผู้ปกครองมาก

3.รูปแบบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการให้ความรู้ผู้ปกครอง ควรเป็นรูปแบบใด จง
อธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
   รูปแบบการสื่อสารของลาล์สเวล เพราะเป็นการสื่อสารที่สื่อถึงผู้ส่งสารให้ได้ทราบถึงข้อมูลว่าเกิด
การเปลี่ยนแปลงหรือเกิดผลอะไรขึ้น โดยประกอบด้วยใครเป็นผู้ส่งสาร ผู้ส่งสารกล่าวสารอะไร 
ใช้สื่อในการส่งสาร ถึงผู้รับสาร เกิดผลอะไร เช่น การที่ครูให้ผู้ปกครองนำใบตองมาให้พรุ่งนี้
เพื่อที่พรุ่งนี้ครูจะพาเด็กทำกระทง พรุ่งนี้ต่อมาผู้ปกครองก็นำใบตองมาให้ครู 

4.ธรรมชาติและการเรียนรู้ของผู้ปกครองควรมีลักษณะอย่างไร
     1.เรียนรู้ได้ดีในเรื่องของการพัฒนาเด็ก
     2เรียนรู้ได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความสมานฉันท์
     3. มีความแปลกใหม่และมีประโยชน์ต่อเด็ก
     4.เรียนรู้ได้ดีจากการฝึกปฏิบัติ
     5.เรียนรู้ได้ดีในบรรยากาศที่เป็นวิชาการน้อยที่สุด
     6.ควรได้รับความต่อเนื่องในการเรียนรู้ทีละขั้นตอไป
     7. เรียนรู้ได้ดีจากสื่อและอุปกรณ์ที่หลากหลาย
5.ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนพฤติกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองมีความ
เข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก ประกอบด้วยปัจจัยด้านใดบ้าง
   1.ความพร้อม
   2.ความต้องการ
   3.อารมณ์และการปรับตัว
   4.การจูงใจ
   5.การเสริมแรง
   6.ทัศนคติและความสนใจ
   7.ความถนัด

การนำไปประยุกต์ใช้
   สามารถนำความรู้ที่ได้ทั้งจากกิจกรรมการสื่อสารในห้องเรียน และเนี้อหาที่เรียน นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และการนำไปประยุกต์ใช้ในการสอนเพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด และนำไปเป็นความรู้ในการเรียนต่อในระดับสุงต่อไปในอนาคต

ประเมินผล
 ประเมินตนเอง
   มาเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจเรียน มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมและให้ความร่วมมือในการตอบคำถาม จดเนื้อหาสาระสำคัญ

 ประเมินเพื่อน
    เพื่อนตั้งใจเรียน และตั้งใจทำกิจกรรมต่างๆ ให้ความร่วมมือในการตอบคำถาม

ประเมินอาจารย์
   อาจารย์เข้าเรียนตรงเวลา เเต่งกายเรียบร้อย อธิบายเนื้อหาเข้าใจ มีการยกตัวอย่างประกอบเพื่อให้นักศึกษาเข้าใจ สอนสนุก และเป็นกันเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น