วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 3

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 3
วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2559
เวลาเรียน 14.30-17.30 น.


***ศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง***


บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 2

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 2
วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม 2559
เวลาเรียน 14.30-17.30 น.

เนื้อหาที่เรียน

   เรียนเรื่อง หลักเบื้องต้นในการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย
  • การให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองหมายถึง 
   การให้ความรู้เกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูเด็ก เพราะเด็กอยู่ในความรับผิดชอบของสถาบันครอบครัว การให้ความรู้แก่ผู้ปกครองถือเป็นกระบวนการทางสังคม ซึ่งสังคมมีหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ให้แก่บุคคลภายในสังคมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในสังคม ทั้งในและนอกระบบ การให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองจึงเป็นการช่วยเหลือพ่อแม่ ผู้ปกครอง ตลอดจนผู้ที่เตรียมตัวจะเป็นพ่อแม่ให้ได้เรียนรู้ถึงวิธีการในการดูแล อบรมเลี้ยงดู และให้การศึกษาแก่เด็ก เพื่อให้เด็กเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพและได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่า เพื่อการพัฒนาตนต่อไปในอนาคต
  • ความสำคัญของการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครอง
การให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองเป็นสิ่งสำคัญที่มีต่อการศึกษาเด็กปฐมวัย สรุปได้ดังนี้
1.เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก
2.เป็นการให้ผู้ปกครองได้เข้าใจถึงบทบาทและหน้าที่ของตนเองที่มีต่อการศึกษาของเด็ก
3.ทำให้ลดความขัดแย้งในการดำเนินงานทางการศึกษา ช่วยให้การศึกษาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
4.เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนสนับสนุนและพัฒนาการศึกษาของเด็ก
5. ช่วยทำให้สถาบันครอบครัวมีความแข็งแรง
  • วัตถุประสงค์ในการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครอง 
การให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองโดยสรุปมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
1. เพื่อให้เข้าใจถึงวิธีการในการอบรมเลี้ยงดูเด็กและให้การศึกษาแก่เด็ก
2. เพื่อให้ความรู้และวิธีการในการส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ให้แก่เด็ก
3. เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวการศึกษาของเด็กที่โรงเรียนเพื่อให้ที่บ้านเข้าใจตรงกัน
4. เพื่อส่งเสริมให้ผู้ปกครองได้ตระหนักถึงบทบาทของตนเองในการมีส่วนร่วมส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ให้แก่บุตรหลาน
5. เพื่อให้ผู้ปกครองได้รับรู้และเข้ามามีบทบาทในการจัดการศึกษาให้แก่บุตรหลาน
  • รูปแบบในการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย
1.เป็นรายบุคคล  การให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเป็นรายบุคคล ส่วนมากจะจัดแบบไม่เป็นทางการ เช่นการเยี่ยมบ้าน การสนทนาซักถาม ฯลฯ
2.กลุ่มขนาดเล็ก รูปแบบการให้ความรู้ในกลุ่มเล็ก ส่วนมากจะจัดแบบไม่เป็นทางการ เช่น การพบปะสนทนา การประชุมกลุ่มย่อย การประชุมโต๊ะกลม การระดมสมอง ฯลฯ
3.กลุ่มขนาดใหญ่ อาจจัดได้หลายรูปแบบทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เช่น การบรรยาย การอภิปราย การประชุมเชิงปฏิบัติการ
4.ระดับชุมชน เช่น การบรรยาย การปาฐกถาหมู่ การโต้วาที การอภิปรายกลุ่ม การสนทนา ฯลฯ
5.ระดับมวลชน เช่น วิทยุ เทปเสียง วีดีทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์
รูปแบบดังกล่าวข้างต้นสามารถสรุปออกเป็นลักษณะของฐานการเรียนรู้เป็น 3 รูปแบบ ดังนี้
1. การใช้บ้านเป็นฐานในการเรียนรู้ (home base) เป็นการจัดกิจกรรมให้ความรู้กับผู้ปกครองถึงที่บ้าน เช่น การเยี่ยมบ้าน การส่งจดหมาย เอกสารถึงบ้าน การจัดทำโฮมสคูล (Home School)
2. การใช้โรงเรียนเป็นฐานในการเรียนรู้ (school base) เป็นการจัดกิจกรรมความรู้ให้ผู้ปกครองที่โรงเรียน เช่น การจัดแสดงผลงานเด็ก    การประชุม การจัดสัมมนา การจัดนิทรรศการ การจัดมุมผู้ปกครอง
3. การใช้ชุมชนเป็นฐานในการเรียนรู้ (community vase) เป็นการเผยแพร่ความรู้ผ่านชุมชน เช่น หมู่บ้าน วัด โบสถ์ มัสยิด วิทยุ โทรทัศน์ ระบบอินเตอร์เน็ต วารสาร นิตยสาร สื่อสิ่งพิมพ์ ฯลฯ ซึ่งกิจกรรมที่จัดโดยผ่านชุมชนประเภทต่างๆ พ่อแม่ ผู้ปกครองสามารถเลือกเรียนรู้ได้ตามความสนใจที่สอดคล้องกับสภาพทางครอบครัว สังคม และวัฒนธรรมของตนเอง นับเป็นแนวทางให้ความรู้ที่เหมาะสมกับผู้ปกครองในสังคมยุคปัจจุบันมากขึ้น

   แนวทางการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย

1.การวางแผน
- กำหนดวัตถุประสงค์
- จัดเตรียมการประชุม
- จัดทำกำหนดการประชุม
2.ดำเนินการประชุม
3.ประเมินผลการประชุม
-การบรรลุวัตถุประสงค์
- ความพร้อมของการประชุม
- หัวข้อการประชุม
- ขั้นตอนการประชุม
            ฯลฯ
4.การออกจดหมายข่าวผลประชุม
  • แนวทางปฏิบัติของสถานศึกษา
 ในการจัดกิจกรรมการให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง สถานศึกษาถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ผู้ปกครองได้ประสบผลสำเร็จในการเรียนรู้ ดังนั้นสถานศึกษาควรมีแนวปฏิบัติดังนี้
  1.รับฟังความคิดเห็นและความรู้สึกที่ผู้ปกครองมีกับลูก
  2.ขณะที่พูดคุยกับผู้ปกครองเด็ก ไม่ใช้เป็นการพูดถึงเด็กในทางที่ไม่ดีเท่านั้น แต่ควรพูดถึงในสิ่งที่ดีที่เด็กสามารถพัฒนาขึ้นมาก
  3.ควรหลีกเลี่ยงคำอธิบายหรือใช้คำศัพท์ทางวิชาการในการอธิบายพูดคุยกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง

การนำไปประยุกต์ใช้
   นำไปใช้ในการเรียนการสอนในอนาคต และศึกษาต่อในระดับสูงต่อไป

การประเมินผล
   ประเมินตนเอง
       มารอเรียนก่อนเวลาเรียน ตั้งใจเรียน มีส่วนร่วมในการตอบคำถาม พยายามทบทวนเนื้อหาเวลาไม่เข้าใจในเนื้อหาบางส่วน
   ประเมินเพื่อน
      มีเพื่อนบางกลุ่มมารอเรียนก่อนเวลา เพื่อนๆช่วยกันตอบคำถาม 
   ประเมินอาจารย์
       อาจารย์มาเข้าสอนตรงเวลา มีความพร้อมในการสอน มีการตามการเรียนการสอนมาดี อาจารย์อธิบายเข้าใจ และพยายามยกตัวอย่างจากในเนื้อหาให้นักศึกษาเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น


บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 1

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 1
วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2559
เวลาเรียน 14.30-17.30 น

เนื้อหาที่เรียน

 เรียนเรื่อง การให้การศึกษาผู้ปกครองเด็กปฐมวัย

  • ผู้ปกครองหมายถึง 
   ผู้ที่เป็นบิดา มารดา หรือบุคคลอื่นที่ให้การอบรมเลี้ยงดูให้การศึกษาแก่เด็กที่อยู่ในการดูแล ดังนั้นในการกล่าวถึงผู้ปกครองจึงมีความหมายรวมถึงบุคคลที่เป็นพ่อและแม่ด้วย
  • ความสำคัญของผู้ปกครอง
   ผู้ปกครองมีความสำคัญซึ่งมีความใกล้ชิดกับเด็ก เป็นผู้ที่มีความหมายต่อชีวิตเด็กทั้งการเจริญเติบโตทางร่างกายและจิตใจเป็นผู้ที่เด็กมอบความรักด้วยความบริสุทธิ์ใจ ผู้ปกครองจึงเป็นผู้นำที่จะช่วยให้เด็กเจริญเติบโต มีพัฒนาการที่เหมาะสม เพื่อการก้าวสู่โลกกว้างได้อย่างมั่นคงและมีความพร้อมในทุกด้าน จึงถือว่าผู้ปกครองเป็นผู้เสริมสร้างคุณลักษณะที่พึงประสงค์ด้วยความรัก ความเข้าใจให้แก่เด็กตั้งแต่เยาว์วัยเป็นรากฐานอนาคตของสังคมให้มีความสมบูรณ์และแข็งแรง
  • บทบาทและหน้าที่ของผู้ปกครอง
   พ่อแม่ผู้ปกครองเป็นบุคคลกลุ่มแรกที่มีความใกล้ชิดกับเด็ก เป็นผู้สนับสนุนและวางรากฐานอันสำคัญยิ่งต่อการเจริญเติบโตของชีวิตมนุษย์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ภาวะแห่งความรับผิดชอบในการอบรมเลี้ยงดูและสายใยแห่งความผูกพันระหว่างพ่อแม่ ลูก เป็นพันธะที่จะต้องมีการดำเนินอย่างต่อเนื่อง เพื่อจุดมุ่งหมายที่สำคัญคือ การให้เด็กได้เจริญเติบโตสมบูรณ์ทั้งทางร่างกายและจิตใจให้เขาสามารถช่วยเหลือตนเอง สามารถปรับตัวอยู่ในสังคมได้อย่าง  มีความสุข                                               กรมวิชาการ (2545)  ได้กล่าวถึงบทบาทและหน้าที่ของผู้ปกครองไว้ดังนี้
1.เป็นแบบอย่างที่ดีของลูก
2.ให้ความรักและความเข้าใจ
3.เรียนรู้ร่วมกับเด็ก
4.ยอมรับอารมณ์และความรู้สึกของลูก
5.ไม่ปิดกั้นความรู้สึกของลูก
6.ฝึกให้ลูกรู้จักการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
7.ลดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
  • บทบาทและหน้าที่ด้านการอบรมเลี้ยงดู
   ภารกิจของพ่อแม่ ผู้ปกครอง คือ การอบรมเลี้ยงดูและพัฒนาเด็กที่ครอบคลุมพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคมและสติปัญญา บทบาทของพ่อแม่ในการเลี้ยงดูเด็กมี 3 ประการ คือ
1.เป็นผู้ให้การเลี้ยงดูเพื่อสร้างเสริมสุขภาพกายและใจที่ดีให้กับเด็ก
2.เป็นผู้ให้การศึกษาเบื้องต้น
3.เป็นผู้ส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคมและสติปัญญา
  • บทบาทและหน้าที่ด้านการส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้
1.ช่วยจัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับกิจกรรมที่โรงเรียน
2.ส่งเสริมให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงให้มาก
3.สนทนาให้ความเป็นกันเองกับเด็ก ป้อนคำถามให้เด็กได้คิดหาคำตอบ
4.ชมเชยเมื่อเด็กทำความดี ทำได้ถูกต้อง ในขณะที่ทำผิดก็ต้องชี้แจงให้เด็กเข้าใจให้ถูกต้องก่อนที่เด็กจะจำวิธีการผิดๆ ไปใช้
5.ให้เด็กมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ช่วยเหลืองานในบ้านที่เหมาะสมกับวัย
6.ให้อิสระแก่เด็กบ้างในบางโอกาส
7.สนับสนุนส่งเสริมให้เกิดปัญญา
8.คอยติดตามการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ของเด็ก โดยไม่เข้มงวดกวดขันจนเกินไป
9.ติดต่อกับครูของเด็กเพื่อรับทราบปัญหาและให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาก่อนที่จะสายเกินแก้
  • บทบาทและหน้าที่ในการส่งเสริมการศึกษา
1.ความอุทิศตน ในการมีเวลาให้กับลูกอย่างเต็มที่ 
2.มีจุดมุ่งหมายสูงส่งเพื่อลูก 
3.ช่างสังเกตถี่ถ้วน
4.ใช้สามัญสำนึกในการเลี้ยงลูก
5.ปลูกฝังวินัย ความเป็นไทย
  • สรุปบทบาทหน้าที่ของผู้ปกครอง 10  ประการ
1.ให้ความรักและสายสัมพันธ์ในครอบครัว
2.ให้ความเอาใจใส่และเอื้ออาทรต่อลูก
3.ทำตนให้เป็นแบบที่ดีแก่ลูก
4.ให้ประสบการณ์การเรียนรู้ในสังคมเกี่ยวกับการปฏิบัติตน
5.ส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ให้เป็นไปตามวัย
6.ให้หลักธรรมในการพัฒนาเด็กด้วยหลักไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปัญญา)
7.ส่งเสริมพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ โดยผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย
8.ศึกษาการเจริญเติบโตของเด็ก
9.เอาใจใส่ดูแลสุขภาพ
10.สนับสนุนเตรียมความพร้อมก่อนสู่สังคม

การประยุกต์ใช้
   -นำไปใช้ในการเรียนการสอนในอนาคต และศึกษาต่อในระดับสูง
   -นำความรู้ที่ได้มาปรับใช้ในการให้การศึกษาผู้ปกครองได้อย่างเหมาะสม 

การประเมินผล
  ประเมินตัวเอง
     ตั้งใจเรียน พยายามทำความเข้าใจในเนื้อหาสาระการเรียน ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่างๆเป็นอย่างดี
  
 ประเมินเพื่อน
     มีเพื่อนบางส่วนยังไม่กลับจากต่างจังหวัด เพื่อนๆในห้องตั้งใจเรียน ไม่พูดคุยเสียงดัง ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม

  ประเมินอาจารย์
     อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย เป็นกันเองกับนักศึกษา อธิบายเนื้อหาอย่างละเอียด มีการยกตัวอย่างประกอบการสอน